ข่าวประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2567
Gold อาจทำรูปแบบ Double Top
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลงปิดที่ระดับ 2,648$/oz สาเหตุมาจากดัชนีดอลลาร์เร่งตัวขึ้นจาก 102.91 เป็น 103.21 ส่งผลให้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง
ส่วนในวันที่ 15 ต.ค. เวลา 19:30 น. มีประกาศตัวเลขดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก โดยคาดการณ์ไว้ที่ 3.4
ทั้งนี้มองราคาทองคำเริ่มทำรูปแบบ Double Top กล่าวคือ การรีบาวด์รอล่าสุดไม่สามารถเบรคเหนือแนวต้านที่ระดับ 2,675$/oz ทำให้มีแนวโน้มที่ราคาทองคำอาจเข้าสู่ช่วงการอ่อนตัว
หุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐแนวโน้มดี แม้ดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง
ล่าสุด 3 สถาบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐฯ เริ่มต้นฤดูกาลรายงานผลประกอบการ โดยหุ้นของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) ปิดตลาดพุ่งขึ้น 4.4% หลังจากรายงานกำไรไตรมาส 3 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากดอกเบี้ยประจำปี
ด้านหุ้นของเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) ปรับตัวขึ้น 5.6% หลังรายงานผลกำไรที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เช่นกัน
นอกจากนี้ หุ้นของแบล็กร็อก (BlackRock) ยังพุ่งขึ้น 3.6% หลังเปิดเผยว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของบริษัททำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3
ข่าวประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2567
Gold มีแรงรีบาวด์
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นปิดที่ระดับ 2,662$/oz โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กที่หดตัวลงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน สู่ระดับ -11.9 ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยมีแนวรับที่ระดับ 2,650$/oz และแนวต้านที่ 2,675$/oz
WTI ร่วงแรง 4.40% หลังอิสราเอลไม่มีแผนโจมตีแหล่งน้ำมันอิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพฤศจิกายนปรับลดลง 3.25 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 4.40% ปิดที่ 70.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานข่าวว่าอิสราเอลไม่มีแผนโจมตีแหล่งน้ำมันของอิหร่าน ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันอาจอ่อนตัวลง
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงนี้ยังส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปิดร่วงลง 3% ซึ่งเป็นการลดลงในวันเดียวที่มากที่สุดในรอบเดือน นับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2566
นักลงทุนจับตาการประชุม ECB คาดลดดอกเบี้ยอีก 0.25%
นักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 17 ต.ค. นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า ECB จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา เช่น เงินเฟ้อในฝรั่งเศสที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ และภาวะเศรษฐกิจของยูโรโซนที่เริ่มย่ำแย่ลง
โกลด์แมน แซคส์ เผยกำไรและรายได้ไตรมาส Q3 2024 เกินคาดนักวิเคราะห์
โกลด์แมน แซคส์ประกาศผลกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 ปี 2567 ที่สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยธนาคารมีกำไรอยู่ที่ 8.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าความคาดหมายที่ระดับ 6.89 ดอลลาร์ต่อหุ้น
นอกจากนี้ รายได้รวมของธนาคารยังอยู่ที่ 12.70 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.180 หมื่นล้านดอลลาร์
ข่าวประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2567
Gold ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยปิดที่ระดับ 2,674$/oz เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่นักลงทุนให้ความสนใจ
ส่วนในวันที่ 17 ต.ค. เวลา 19:30 น. จะมีการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์ โดยคาดการณ์ว่าตัวเลขยอดค้าปลีกจะอยู่ที่ 0.3% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการจะอยู่ที่ 241,000 ราย
ทั้งนี้ คาดว่าตลาดจะยังคงจับตาดูความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด
BOJ ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เซอิจิ อาดาจิ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้แสดงความเห็นว่า BOJ ควรดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ต้องรีบเร่งในการควบคุมเงินเฟ้อในขณะนี้ เขากล่าวว่า “ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อในตอนนี้ … ผมคิดว่าเราควรหลีกเลี่ยงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร่งรีบมากกว่า”
ทองจ่อแพง! วงการทองคำคาดราคาทองแตะนิวไฮ 2,917 ดอลลาร์ ตุลาคม 2025
จากการประชุมใหญ่ประจำปีของสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน (London Bullion Market Association หรือ LBMA) ซึ่งจัดขึ้นที่ไมอามี สหรัฐอเมริกา มีการเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มราคาทองคำ พบว่าราคาทองคำทั่วโลกมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,917 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ภายในปลายเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากราคาปัจจุบัน
ราคาทองคำทำจุดสูงสุดล่าสุดในเดือนกันยายน 2024 ที่ระดับ 2,685 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยปัจจัยหลักคือการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ เนื่องจากทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน จะได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ราคาทองคำ Gold Spot ทำสถิติราคาปิดสูงสุดใหม่ถึง 8 ครั้ง โดยราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 2,685.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2024
นอกจากนี้ ราคาทองคำ Gold Future ก็ทำสถิติใหม่เช่นกัน โดยมีราคาปิดสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 2,695.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในวันที่ 26 กันยายน 2024 และมีราคาสูงสุดระหว่างวันที่ 2,702.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในวันเดียวกัน
ข่าวประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567
Gold เร่งตัวขึ้นใกล้ทดสอบแนวต้าน 2,700$/oz
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับ 2,692$/oz สาเหตุหลักมาจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางและการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในวันที่ 18 ต.ค. เวลา 19:30 น. จะมีการประกาศตัวเลขใบอนุญาตก่อสร้างในสหรัฐ โดยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1.45 ล้านหน่วย ต่อมาในเวลา 23:10 น. จะมีการแถลงของ Waller สมาชิกธนาคารกลางสหรัฐ
โดยรวมมองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้
หุ้น NVIDIA ทำจุดสูงสุดใหม่แตะระดับ $140+
NVIDIA คือบริษัทเทคโนโลยีผู้ผลิตชิปหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่ทรงพลัง รวมถึงชิปประมวลผลสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา หุ้นของ NVIDIA มีการเปลี่ยนแปลงสูงถึง 231.15% ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของบริษัท นอกจากนี้ NVIDIA ยังได้รับอานิสงส์จากรายงานผลประกอบการของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก
โดยคาดว่า TSMC จะรายงานผลประกอบการที่มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 42% ในไตรมาสที่ 3 นี้ ซึ่งยังคงได้รับแรงหนุนหลักจากความต้องการชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หลังจากที่มีการปรับลดในขนาดเดียวกันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งแรกในรอบ 13 ปี การปรับลดดอกเบี้ยนี้ส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
หุ้นของ เนสท์เล่ (Nestle) ปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.5% โดยได้รับแรงหนุนจากความคิดเห็นเชิงบวกของผู้บริหาร แม้ว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์ยอดขายทั้งปีลงก็ตาม ในขณะที่หุ้น เร็นโทคิล อินนิเชียล (Rentokil Initial) บริษัทอังกฤษที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการกำจัดและควบคุมสัตว์รบกวน ก็ปรับตัวขึ้น 8.7% เนื่องจากมีแผนที่จะขยายธุรกิจในอเมริกาเหนือ หลังจากที่รายได้ของกลุ่มบริษัทมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง