ประเภทของตราสารทางการเงิน

สารบัญ

ตราสารทางการเงิน

• สินเชื่อและเงินกู้ยืม
• เงินฝากธนาคาร
• ลีสซิ่ง
• หุ้นและตราสารหนี้
• ฟิวเจอร์ส

สรุป

ในตลาดการเงิน นักลงทุนจะต้องพบเจอกับตราสารทางการเงินไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดก็ตาม และตราสารทางการเงินคืออะไรนั้น เราจะมาอธิบายให้ทุกท่านอย่างละเอียด

ตราสารทางการเงิน

ตราสารทางการเงิน ครอบคลุมคำศัพท์และคำจำกัดความที่หลากหลายมากมาย ซึ่งสามารถเห็นได้ว่ามันมีมากมายเพียงใด ตราสารทางการเงินนั้นรวมถึงกลุ่มเครื่องมือจากธนาคาร กลุ่มสินทรัพย์ในตลาด และการดำเนินการทางการเงินอื่น ๆ อีกมากมายที่หลายคนเคยได้ยิน

ตราสารทางการเงินทั้งหมดสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก ๆ โดยตราสารทางการเงินกลุ่มแรกบุคคลทั่วไปจะสามารถเข้าถึงได้ง่ายดายโดยไม่มีข้อยกเว้น ในขณะที่กลุ่มที่สองผู้ที่ต้องการซื้อขายตราสารเหล่านี้จำเป็นต้องมีความรู้และทักษะเฉพาะ ดังนั้นตราสารทางการเงินกลุ่มแรกจะประกอบด้วยสินเชื่อ เงินกู้ เงินฝากธนาคาร และลีสซิ่ง

• สินเชื่อและเงินกู้ยืม
  สินเชื่อและเงินกู้ยืม เป็นตราสารทางการเงินที่แพร่หลายที่สุดสำหรับประชาชนทั่วไป สินเชื่อหรือเครดิตคือการทำธุรกรรมที่ผู้ให้กู้มอบเงินให้กับผู้กู้โดยมีดอกเบี้ยตามที่กำหนด แน่นอนว่าเงินนี้จะต้องถูกชำระคืนตามข้อตกลง เมื่อเวลาผ่านไป เงื่อนไขการให้กู้ยืมทั่วโลกกำลัง "ผ่อนปรน" มากขึ้น เนื่องจากธนาคารต่างแข่งขันกันเพื่อรักษาลูกค้าไว้ จึงเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่า อย่างไรก็ตามในเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาไม่เป็นเช่นนั้น ในกรณีส่วนใหญ่ อัตราดอกเบี้ยจากการให้สินเชื่อหรือเครดิตยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของธนาคาร

• เงินฝากธนาคาร
  เงินฝากธนาคาร เป็นอีกหนึ่งตราสารทางการเงินที่แพร่หลาย ซึ่งไม่ได้ต้องการความรู้เชิงลึกใด ๆ มากมายนัก โดยธนาคารจะทำหน้าที่เป็นผู้กู้ยืมและจ่ายดอกเบี้ยคืนให้กับผู้ให้กู้ (บุคคล) สำหรับการใช้เงินของตนหลังจากพ้นระยะเวลาที่กำหนด อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะคำนวณตามมูลค่าของอัตราดอกเบี้ยหลักของประเทศนั้น ๆ หรืออาจมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไปในแต่ละธนาคาร เป็นต้น

• ลีสซิ่ง
  ลีสซิ่ง หรือการเช่าแบบลีสซิ่ง เป็นตราสารทางการเงินที่ซับซ้อนกว่าตราสารอื่น ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น แต่ประชาชนทั่วไปก็ยังคงสามารถเข้าถึงตราสารนี้ได้เช่นกัน การทำสัญญาลีสซิ่งทำโดยสามฝ่าย โดยเมื่อตกลงทำสัญญากันแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อจะได้รับสินทรัพย์ระยะยาว ผู้เช่าจะต้องชำระเงินเพื่อลดหนี้สิน และผู้แทนจำหน่ายจะทำการขายทรัพย์สินหรือเครื่องมือของตนนั่นเอง

ต่อไปเรามาพูดถึงตราสารทางการเงินกลุ่มที่สองกัน ซึ่งกลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงินและการเก็งกำไรประเภทต่าง ๆ ในกรณีนี้การเก็งกำไรหมายถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงพร้อมกับโอกาสในการได้รับรายได้จำนวนมาก

• หุ้นและตราสารหนี้
  หุ้นและตราสารหนี้คืออะไร? หุ้น คือส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของ หลังจากซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แล้ว เจ้าของหุ้นจะได้รับสิทธิ์ในการรับเงินปันผล ตราสารหนี้ คือตราสารทางการเงินที่ผู้ถือหรือนักลงทุน มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยเจ้าหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปของ “ดอกเบี้ย” อย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ และจะได้รับ “เงินต้น” คืนเมื่อครบกำหนดอายุ เมื่อพูดถึงความเสี่ยง หุ้นถือว่าเป็นตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ขณะที่ตราสารหนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยมากกว่า

• ฟิวเจอร์ส
  ฟิวเจอร์ส ฟิวเจอร์สหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นตราสารทางการเงินในการซื้อขายอนุพันธ์ที่อิงตามข้อตกลงการซื้อขายสินทรัพย์ เช่น หุ้น, สินค้า ฯลฯ และเมื่อทำข้อตกลงกัน คู่สัญญาจะตกลงกันแค่เพียงเรื่องราคาและวันที่ส่งมอบเท่านั้น พารามิเตอร์อื่น ๆ มักจะค่อนข้างเป็นมาตรฐานและเป็นไปตามข้อกำหนดต่าง ๆ การซื้อขายฟิวเจอร์สเป็นข้อเสนอการเทรด ซึ่งมีการซื้อขายในตลาดอยู่เป็นประจำ

สรุป

นอกจากนี้ยังมีตราสารทางการเงินอีกมากมายที่อยู่ในตลาดการซื้อขายนี้ ไม่ว่าจะเป็น ออปชัน การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง และอื่น ๆ นักลงทุนทุกคนสามารถค้นหาตราสารทางการเงินที่หลากหลายนี้ ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ ความรู้ และความเป็นไปได้ทางการเงินของพวกเขาได้อย่างแน่นอน