สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคม ในระหว่างวันที่ 6 - 10 มกราคม 2568
EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป
- รายงานยอดค้าปลีกของเยอรมนี (German Retail Sales) (6 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด อาจช่วยหนุนค่าเงินยูโร เนื่องจากสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของผู้บริโภคในเยอรมนี
- ดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซน (Eurozone Final Services PMI) (6 มกราคม) : ตัวเลขที่ดีขึ้นอาจบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน และช่วยหนุนค่าเงินยูโร
- ข้อมูลคำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมนี (German Factory Orders) (7 มกราคม) : ตัวเลขที่แข็งแกร่งอาจช่วยหนุนค่าเงินยูโร เนื่องจากสะท้อนถึงความมั่นคงของภาคการผลิต
- ดัชนี GDP ไตรมาสที่ 4 ของยูโรโซน (Eurozone GDP Q4 2024) (8 มกราคม) : หากตัวเลขชี้ถึงการเติบโตที่ชะลอตัว ยูโรอาจอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (U.S. Consumer Confidence Index) (7 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาดอาจหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันคู่เงิน EUR/USD
- รายงานการประชุมของเฟด (FOMC Meeting Minutes) (8 มกราคม) : หากมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ดอลลาร์อาจแข็งค่าและกดดันค่าเงินยูโร
- ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ (U.S. PPI) (9 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาดอาจสนับสนุนการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงนโยบายการเงินที่เข้มงวด ดอลลาร์อาจแข็งค่า
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (9 มกราคม) : ตัวเลขที่ต่ำกว่าคาด อาจช่วยหนุนดอลลาร์ แต่หากตัวเลขสูงกว่าคาด อาจเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์
- การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (Non-Farm Payrolls) (10 มกราคม) : ตัวเลขนี้เป็นตัวชี้วัดสำคัญ หากออกมาดีกว่าคาด อาจหนุนดอลลาร์และกดดันค่าเงินยูโร แต่หากต่ำกว่าคาด ดอลลาร์อาจอ่อนค่าลง
- ดัชนีการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Unemployment Rate) (10 มกราคม) : หากตัวเลขลดลง อาจช่วยหนุนความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคามีการทะลุแนวรับสำคัญที่ 1.03360 ลงมา คอนเฟิร์มแนวโน้มยังคงเป็นขาลงชัดเจน ขณะนี้ราคากำลังพักตัวปรับขึ้นเล็กน้อย
แนะนำให้รอจังหวะ Sell ที่บริเวณแนวต้านใหม่ 1.03360 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาทะลุลงมาก่อนหน้านี้ หากมี Price Action ที่ชัดเจนในฝั่ง Sell สามารถเข้าออเดอร์เพื่อลุ้นเป้าหมายการลงในระยะยาวได้ทันที
GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร
- ดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักร (U.K. Final Services PMI) (6 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจช่วยหนุนค่าเงินปอนด์ เนื่องจากสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาคบริการที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร
- ดัชนีราคาบ้านของ Halifax (U.K. Halifax House Price Index) (8 มกราคม) : ตัวเลขที่แข็งแกร่ง อาจสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหราชอาณาจักร และช่วยหนุนค่าเงินปอนด์
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ข้อมูลคำสั่งซื้อโรงงานของสหรัฐ (U.S. Factory Orders) (7 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาดี อาจหนุนค่าเงินดอลลาร์ และกดดันคู่เงิน GBP/USD
- ข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (U.S. Consumer Confidence Index) (7 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาด อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และกดดันค่าเงินปอนด์
- รายงานการประชุมของเฟด (FOMC Meeting Minutes) (8 มกราคม) : หากมีการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ดอลลาร์อาจแข็งค่า และกดดันคู่เงิน GBP/USD
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (9 มกราคม) : ตัวเลขที่ต่ำกว่าคาด อาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งของดอลลาร์ ในขณะที่ตัวเลขที่สูงกว่าคาด อาจเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์
- การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (Non-Farm Payrolls) (10 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาด อาจหนุนดอลลาร์และกดดันคู่เงิน GBP/USD แต่หากตัวเลขต่ำกว่าคาด ค่าเงินปอนด์อาจได้รับแรงหนุน
- ดัชนีการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Unemployment Rate) (10 มกราคม) : หากตัวเลขต่ำลง อาจสะท้อนถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ และหนุนดอลลาร์
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
GBP/USD มีการเคลื่อนที่ลงและทะลุแนวรับเช่นเดียวกัน โดยสามารถใช้ระดับ 1.24800 ซึ่งเป็นแนวรับเก่า มาเป็นโซนแนวต้านในปัจจุบัน
ขณะนี้ราคากำลังพักตัวและทดสอบแนวต้าน หากมี Price Action ฝั่ง Sell สามารถเข้าออเดอร์เพื่อลุ้นให้ราคาเคลื่อนที่ลงต่อไปได้
XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ
- ดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซนและสหรัฐ (Eurozone & U.S. Final Services PMI) (6 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาดในยูโรโซนอาจลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ขณะที่ตัวเลขจากสหรัฐที่แข็งแกร่งอาจหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ
- ข้อมูลคำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมนี (German Factory Orders) (7 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาดี อาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยุโรป และลดความต้องการทองคำ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (U.S. Consumer Confidence Index) (7 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจกดดันราคาทองคำเนื่องจากดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
- ดัชนี GDP ไตรมาสที่ 4 ของยูโรโซน (Eurozone GDP Q4 2024) (8 มกราคม) : หากเศรษฐกิจยูโรโซนเติบโตน้อยกว่าคาด อาจเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- รายงานการประชุมของเฟด (FOMC Meeting Minutes) (8 มกราคม) : หากเฟดส่งสัญญาณเพิ่มการคุมเข้มนโยบายการเงิน อาจหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ
- ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ (U.S. PPI) (9 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาดอาจกระตุ้นการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงนโยบายการเงินที่เข้มงวด ซึ่งอาจส่งผลลบต่อราคาทองคำ
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (9 มกราคม) : หากตัวเลขต่ำกว่าคาด อาจหนุนดอลลาร์ แต่ตัวเลขสูงกว่าคาดอาจช่วยหนุนราคาทองคำ
- การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (Non-Farm Payrolls) (10 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาด อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าและกดดันราคาทองคำ แต่หากต่ำกว่าคาด ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้น
- ดัชนีการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Unemployment Rate) (10 มกราคม) : หากตัวเลขลดลง อาจกดดันราคาทองคำจากความเชื่อมั่นในดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
น้องทองตัวแสบมีการปรับตัวขึ้นหลังปีใหม่มา และมองว่าอาจเคลื่อนที่ในลักษณะ Sideway Up ภายในกรอบราคาฐาน 2575-2670 สามารถเทรดได้ทั้งฝั่ง Buy และ Sell เนื่องจากยังไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนในทิศทางใดในปัจจุบัน
ในกรอบ TF เล็ก ๆ จะมีฐานราคาที่ 2630 ซึ่งเป็นแนวรับในตอนนี้ หากราคามี Price Action ฝั่ง Buy และดีดขึ้นในโซน 2630 นี้ อาจพิจารณาเข้าออเดอร์ Buy เพื่อลุ้นทดสอบแนวต้านที่ 2660-2670 ได้เช่นกัน
Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน