สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายนและสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ในระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 4 ตุลาคม 2567
EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป
- ดัชนี CPI ของยูโรโซน (30 กันยายน) : การประกาศอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนจะมีความสำคัญมาก หากดัชนี CPI สูงขึ้นอาจเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต้องเข้มงวดกับนโยบายการเงิน ทำให้ยูโรมีโอกาสแข็งค่าขึ้น
- ยอดค้าปลีกของเยอรมนี (2 ตุลาคม) : ตัวเลขนี้บ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจและการใช้จ่ายภายในประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยูโรโซน หากยอดค้าปลีกสูงเกินคาด ยูโรอาจได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ
- การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) (3 ตุลาคม) : แม้ว่าจะไม่มีการประกาศนโยบายใหม่ แต่การแถลงหรือความคิดเห็นจาก ECB เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการเติบโตอาจส่งผลต่อตลาด หากมีการส่งสัญญาณถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ยูโรอาจแข็งค่าขึ้น
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ ISM (2 ตุลาคม) : ตัวเลขนี้สะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐฯ หากตัวเลขแข็งแกร่ง ดอลลาร์สหรัฐอาจแข็งค่าเนื่องจากตลาดเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง
- การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls) (4 ตุลาคม) : ตัวเลขการจ้างงานจะเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ หากตัวเลขการจ้างงานแข็งแกร่ง ดอลลาร์จะได้รับแรงหนุน เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดเพื่อลดความเสี่ยงของเงินเฟ้อ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคากำลังทดสอบแนวต้านสำคัญที่โซนราคา 1.12100 ซึ่งยังไม่สามารถทะลุผ่านได้ ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากในวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม จะมีการประกาศตัวเลข NFP ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีความผันผวน หากต้องการเข้าเทรด อาจรอ Buy ที่แนวเทรนด์ไลน์บริเวณ 1.10000 เพื่อลุ้นให้ราคาดีดตัวทะลุแนวต้านก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักร (30 กันยายน) : หากอัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรยังคงสูง อาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ต้องคงท่าทีที่เข้มงวดในนโยบายการเงิน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนค่าเงินปอนด์ให้แข็งค่าขึ้น
- ดัชนี PMI ภาคการผลิต (2 ตุลาคม) : การประกาศตัวเลขนี้จะสะท้อนถึงภาวะการผลิตของสหราชอาณาจักร หากออกมาดีกว่าคาดการณ์ เงินปอนด์อาจได้รับแรงสนับสนุนจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น
- การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (3 ตุลาคม) : คำแถลงจาก BoE เกี่ยวกับนโยบายการเงินจะมีผลกระทบต่อค่าเงินปอนด์ หากธนาคารส่งสัญญาณที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ เงินปอนด์อาจแข็งค่าขึ้น
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls) (4 ตุลาคม) : ตัวเลขนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หากมีการจ้างงานที่แข็งแกร่ง เงินดอลลาร์จะได้รับแรงหนุนและค่าเงินปอนด์อาจอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาได้ทะลุแนวต้านเดิม 1.33000 และได้ติดแนวต้านใหม่ที่ 1.34350 แนะนำใช้เทคนิคเทรดในช่วงราคานี้ อาจจะลุ้น Buy ขณะราคาย่อลงเพื่อลุ้นให้ราคาเป็นขาขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นในสัปดาห์นี้ราคาอาจจะไม่เคลื่อนไปไหนมาก เพราะต้องรอดูข่าวการประกาศนโยบายทางการเงินของทางฝั่งอังกฤษและข่าว NFP ของทางฝั่งสหรัฐอเมริกา เพื่อเลือกทิศทางที่ชัดเจนต่อไป
XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ
- นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) : หากเฟดยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ จะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดดันราคาทองคำในตลาดโลก เพราะทองคำและดอลลาร์มักเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ เช่น ดัชนี PMI ภาคการผลิต (2 ตุลาคม) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (4 ตุลาคม) : หากข้อมูลเหล่านี้ออกมาดีและสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดอลลาร์สหรัฐฯ จะได้รับแรงหนุน ทำให้ทองคำมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนจากพันธบัตรและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจะลดลง
ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจ
- ดัชนี CPI ของยูโรโซน (30 กันยายน) : แม้ว่าจะไม่ใช่ปัจจัยหลักสำหรับตลาดทองคำโดยตรง แต่หากตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
- ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ : ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งอาจชี้ให้เห็นถึงการคงแนวนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด ซึ่งจะส่งผลให้ทองคำถูกกดดันจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ปิดด้วย Engulfing Pattern ของแท่งวันพฤหัสบดี ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้เราลุ้นให้ราคาย่อลงเล็กน้อย เพื่อรอหาจังหวะในการเข้า Buy
การเทรดในช่วงนี้จำเป็นต้องทำอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะในวันศุกร์ที่จะถึงนี้จะมีข่าว NFP ที่เป็นตัวแปรสำคัญ หากตัวเลขที่ออกมาส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า อาจทำให้ทองคำทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง
ขอแนะนำเทคนิค "Buy on Dip" โดยให้โฟกัสที่โซนแนวรับสำคัญที่ 2600 และ 2560 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเข้า Buy
Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน