สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมและสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ในระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2567 - 3 มกราคม 2568
EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐฯ
- ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซน (Eurozone Economic Sentiment Indicator) (30 ธันวาคม) : หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด อาจช่วยหนุนค่าเงินยูโร แต่หากตัวเลขต่ำกว่าคาด อาจส่งผลให้ยูโรอ่อนค่าลง
- ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขายของสหรัฐ (U.S. Pending Home Sales) (30 ธันวาคม) : ตัวเลขที่แข็งแกร่งอาจช่วยหนุนดอลลาร์ แต่หากออกมาต่ำกว่าคาด อาจเป็นแรงกดดันต่อดอลลาร์
- ตลาดบางส่วนในยุโรปและสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันสิ้นปี (31 ธันวาคม) : ความผันผวนอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากการซื้อขายในตลาดเบาบาง
- ตลาดปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ (1 มกราคม) : ไม่มีการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน (Eurozone Final Manufacturing PMI) (2 มกราคม) : หากตัวเลขสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อาจช่วยหนุนค่าเงินยูโร
- ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (2 มกราคม) : ตัวเลขต่ำกว่าคาด อาจช่วยหนุนดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขสูงกว่าคาด อาจกดดันดอลลาร์
- รายงานยอดค้าปลีกของเยอรมนี (Germany Retail Sales) (3 มกราคม) : หากตัวเลขสะท้อนการบริโภคที่แข็งแกร่งในเยอรมนี ค่าเงินยูโรอาจได้รับแรงหนุน
- ดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐ (U.S. Final Manufacturing PMI) (3 มกราคม) : ตัวเลขสูงกว่าคาด อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า แต่หากตัวเลขต่ำกว่าคาด อาจเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคายังคงเคลื่อนไหวในโซนเดิมที่ได้วิเคราะห์ไว้ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยไม่มีความผันผวนสูงมากนัก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงสิ้นปีและต้อนรับปีใหม่ ยังคงแนะนำแผนการ Sell ในช่วงราคาที่ 1.04600 เพื่อให้ราคาลงไปทดสอบแนวรับที่ 1.03400
อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการถือออเดอร์ข้ามปี เนื่องจากอาจเกิดความผันผวนที่สูง และเสี่ยงต่อการขาดทุน ควรเทรดอย่างระมัดระวังในช่วงนี้
GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้
U.K. and U.S. Economic Data:
- ดัชนีราคาบ้านในสหราชอาณาจักร (U.K. Nationwide HPI) (30 ธันวาคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาดอาจช่วยหนุนค่าเงินปอนด์ เนื่องจากสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร
- ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขายของสหรัฐ (U.S. Pending Home Sales) (30 ธันวาคม) : ตัวเลขที่แข็งแกร่งอาจช่วยหนุนดอลลาร์ ในขณะที่ตัวเลขที่ต่ำกว่าคาดอาจเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์
- ตลาดบางส่วนในสหราชอาณาจักรและสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันสิ้นปี (31 ธันวาคม) : ความผันผวนอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณการซื้อขายในตลาดลดน้อยลง
- ตลาดปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ (1 มกราคม) : ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร (U.K. Final Manufacturing PMI) (2 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจหนุนค่าเงินปอนด์ เนื่องจากสะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคการผลิต
- ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (2 มกราคม) : ตัวเลขต่ำกว่าคาด อาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งของดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขสูงกว่าคาด อาจส่งผลกดดันดอลลาร์
- ดัชนียอดการอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหราชอาณาจักร (U.K. Mortgage Approvals) (3 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาด อาจช่วยเพิ่มแรงหนุนให้ค่าเงินปอนด์
- ดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐ (U.S. Final Manufacturing PMI) (3 มกราคม) : ตัวเลขที่แข็งแกร่งอาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และอาจกดดันค่าเงินปอนด์ แต่หากต่ำกว่าคาด อาจหนุน GBP/USD
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคายังคงเคลื่อนไหวตามแผนที่ได้วิเคราะห์ในช่วงสัปดาห์ที่แล้วและยังคงอยู่ในโซนราคาเดิม ยังคงแนะนำการ Sell เพื่อลุ้นให้ราคาลงไปทดสอบแนวรับที่ 1.24700
อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการถือออเดอร์ข้ามปี เนื่องจากอาจเกิดความผันผวนสูง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการขาดทุนได้ ควรเทรดอย่างระมัดระวังในช่วงนี้
XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ
- ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซน (Eurozone Economic Sentiment Indicator) (30 ธันวาคม) : ตัวเลขที่ต่ำกว่าคาดอาจหนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่หากตัวเลขออกมาดี นักลงทุนอาจเพิ่มความสนใจในสินทรัพย์เสี่ยง
- ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขายของสหรัฐ (U.S. Pending Home Sales) (30 ธันวาคม) : ตัวเลขที่แข็งแกร่งสะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัว อาจหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ
- ตลาดบางส่วนปิดทำการเนื่องในวันสิ้นปี (31 ธันวาคม) : ความผันผวนอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณการซื้อขายในตลาดลดน้อยลง
- ตลาดปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ (1 มกราคม) : ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญ
- ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (2 มกราคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาดอาจเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน และหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่หากตัวเลขต่ำกว่าคาด อาจกดดันราคาทองคำ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน (Eurozone Final Manufacturing PMI) (2 มกราคม) : หากตัวเลขชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยุโรป ความต้องการทองคำอาจลดลง
- รายงานยอดค้าปลีกของเยอรมนี (Germany Retail Sales) (3 มกราคม) : หากข้อมูลสะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเยอรมนี ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำอาจลดลง
- ดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐ (U.S. Final Manufacturing PMI) (3 มกราคม) : ตัวเลขที่แข็งแกร่งอาจหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ แต่หากตัวเลขต่ำกว่าคาด ราคาทองคำอาจได้รับแรงหนุน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ทดสอบแนวต้านที่ระดับ 2638-2640 และมีการปฏิเสธราคาลงมา จึงอาจพิจารณาเข้า Sell เพื่อลุ้นให้ราคาลงไปทดสอบแนวรับที่ฐาน 2580 ได้
อย่างไรก็ตาม การเทรดทองในช่วงปีใหม่ควรระมัดระวังมากกว่าการเทรดสกุลเงิน เนื่องจากความผันผวนที่อาจสูงขึ้น ไม่ควรถือออเดอร์ข้ามปี เนื่องจากอาจเกิดความผันผวนสูงและเสี่ยงต่อการขาดทุน ควรบริหารเงินทุนและ Position การเทรดให้เหมาะสมเพื่อป้องกันความเสี่ยง
Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน