สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม ในระหว่างวันที่ 27 - 31 มกราคม 2568
EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone Consumer Confidence Index) (27 มกราคม) : หากตัวเลขปรับตัวดีขึ้น อาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนค่าเงินยูโร อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด อาจสร้างแรงกดดันให้กับยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์
- ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนี (Germany CPI) (29 มกราคม) : ในฐานะที่เยอรมนีเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยูโรโซน ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดอาจบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านราคาที่ยังคงอยู่ และเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจช่วยหนุนค่าเงินยูโร
- ดัชนีราคาผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone CPI) (31 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจส่งสัญญาณว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจกระตุ้นให้ ECB พิจารณาคงนโยบายการเงินที่เข้มงวด หรือชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลเชิงบวกต่อค่าเงินยูโร
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (U.S. Consumer Confidence Index) (28 มกราคม) : หากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐสูงกว่าคาด อาจหนุนดอลลาร์และกดดันคู่เงิน EUR/USD
- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC Meeting) (29 มกราคม) : นักลงทุนจะจับตาถ้อยแถลงจาก FOMC หากมีการส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยหรือขึ้นดอกเบี้ย อาจส่งผลต่อทิศทางของดอลลาร์
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (30 มกราคม) : ตัวเลขที่ต่ำกว่าคาด อาจช่วยหนุนดอลลาร์และกดดันคู่เงิน EUR/USD
- GDP ไตรมาสที่ 4 ของสหรัฐ (U.S. Preliminary GDP) (30 มกราคม) : หากตัวเลข GDP ออกมาดีกว่าคาด อาจหนุนดอลลาร์และกดดันค่าเงินยูโร
- ดัชนีต้นทุนการจ้างงานของสหรัฐ (U.S. Employment Cost Index) (31 มกราคม) : ตัวเลขนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงค่าจ้าง หากเพิ่มขึ้น อาจหนุนดอลลาร์และกดดัน EUR/USD
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาปรับตัวขึ้นจากแนวรับ ตามแผนที่วางไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเกิดการกลับตัว (Reversal)
ขณะนี้แนะนำให้รอให้ราคาย่อตัวลงเล็กน้อยในโซน 1.04500-1.04000 ก่อนเข้าสถานะ Buy หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1.04000 ควรชะลอการเข้าซื้อ และรอดูพฤติกรรมของราคาก่อนตัดสินใจ เนื่องจากยังมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงต่อได้อีก
GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร
- ดัชนีราคาบ้านจาก Nationwide ของสหราชอาณาจักร (U.K. Nationwide House Price Index) (27 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร และส่งผลเชิงบวกต่อค่าเงินปอนด์
- ดัชนีเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร (U.K. CPI) (28 มกราคม) : ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดอาจเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนค่าเงินปอนด์
- ตัวเลขสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหราชอาณาจักร (U.K. Mortgage Approvals) (29 มกราคม) : ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของภาคอสังหาริมทรัพย์ หากออกมาสูงกว่าคาด อาจช่วยเสริมความเชื่อมั่นและหนุนค่าเงินปอนด์
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหราชอาณาจักร (U.K. PMI) (31 มกราคม) : หากตัวเลข PMI สูงกว่าคาด อาจสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในสหราชอาณาจักร และเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินปอนด์
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (U.S. Consumer Confidence Index) (28 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาแข็งแกร่ง อาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันคู่เงิน GBP/USD
- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC Meeting) (29 มกราคม) : นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของ FOMC หากส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม อาจส่งผลเชิงลบต่อ GBP/USD
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (30 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด อาจเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ และกดดัน GBP/USD
- GDP ไตรมาสที่ 4 ของสหรัฐ (U.S. Preliminary GDP) (30 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด อาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ และเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินปอนด์
- ดัชนีต้นทุนการจ้างงานของสหรัฐ (U.S. Employment Cost Index) (31 มกราคม) : หากตัวเลขปรับตัวเพิ่มขึ้น อาจส่งผลเชิงบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ และกดดัน GBP/USD
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาปรับตัวขึ้นและเข้าทดสอบแนวต้านที่ 1.25300 ก่อนมีการย่อตัวลงเล็กน้อย สะท้อนถึงแรงขายที่เริ่มเข้ามาในโซนแนวต้าน กลยุทธ์ที่แนะนำคือ ฝั่ง Buy โดยสามารถเข้าซื้อได้ในโซน 1.24400-1.24000 ซึ่งเป็นบริเวณแนวรับสำคัญ
อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลงลึกกว่าระดับ 1.23000 แนะนำให้ พักรอดูท่าทีของราคา ก่อนตัดสินใจ เนื่องจากอาจมีโอกาสที่แนวโน้มขาขึ้นจะเริ่มเปลี่ยนแปลง หรืออาจต้องรอการสร้างฐานใหม่ก่อนเข้าสู่รอบการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone Consumer Confidence Index) (27 มกราคม) : หากตัวเลขออกมาดี อาจลดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่หากต่ำกว่าคาด อาจหนุนราคาทองคำ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (U.S. Consumer Confidence Index) (28 มกราคม) : ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง อาจหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ
- ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนี (Germany CPI) (29 มกราคม) : หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูง อาจช่วยหนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC Meeting) (29 มกราคม) : หาก FOMC ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม อาจส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักลดความน่าสนใจของทองคำ
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (30 มกราคม) : ตัวเลขแรงงานที่ดีขึ้น อาจหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ
- GDP ไตรมาสที่ 4 ของสหรัฐ (U.S. Preliminary GDP) (30 มกราคม) : หาก GDP ของสหรัฐสูงกว่าคาด อาจส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากนักลงทุนอาจหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
- ดัชนีราคาผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone CPI) (31 มกราคม) : ตัวเลขที่สูง อาจช่วยเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ
- ดัชนีต้นทุนการจ้างงานของสหรัฐ (Employment Cost Index) (31 มกราคม) : หากตัวเลขต้นทุนการจ้างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และกดดันราคาทองคำ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคามีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทำลายแนวต้าน 3 Equal High ที่เคยปรากฏมาก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ราคากำลังทดสอบแนวต้านที่ 2790-2800 ซึ่งใกล้จะ Breakout และทำ All-Time High (ATH) อีกครั้ง หากราคาย่อลงมาสักเล็กน้อยในบริเวณ 2750-2740 อาจจะเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้า Buy และลุ้นให้ราคาขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตามองข่าวสารที่อาจมีผลกระทบในระหว่างสัปดาห์ เนื่องจากอาจเกิดการปรับตัวลงอย่างรุนแรง หากราคาทำลายแนวรับที่ 2735 ควรรอดูท่าทีของตลาดก่อนตัดสินใจต่อไป
Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน