สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์ที่ห้าของเดือนพฤศจิกายน ในระหว่างวันที่ 25 - 29 พฤศจิกายน 2567
EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป
- ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจ Ifo ของเยอรมนี (German Ifo Business Climate Index) (25 พฤศจิกายน) : ดัชนีนี้สะท้อนระดับความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจของเยอรมนี ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยูโรโซน หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาดการณ์ อาจเป็นปัจจัยหนุนค่าเงินยูโร แต่หากต่ำกว่าคาด อาจส่งผลกดดันต่อค่าเงินยูโร
- ตัวเลขประมาณการ GDP ไตรมาส 3 ของเยอรมนีและยูโรโซน (Q3 GDP Estimates for Germany and the Eurozone) (26 พฤศจิกายน) : GDP เป็นตัวชี้วัดสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ หากตัวเลขสะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในยูโรโซน อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินยูโร แต่หากต่ำกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง
- ดัชนีราคาผู้บริโภคเบื้องต้นของเยอรมนี (Preliminary German CPI) (29 พฤศจิกายน) : ตัวเลข CPI ของเยอรมนีเป็นตัวชี้วัดแรงกดดันเงินเฟ้อ หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์ อาจช่วยหนุนค่าเงินยูโร เนื่องจากอาจผลักดันให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทบทวนแนวทางนโยบายการเงิน
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ตัวเลขดัชนีราคาบ้านในสหรัฐ (U.S. Case-Shiller Home Price Index) (26 พฤศจิกายน) : ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นถึงสภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ หากราคาบ้านยังคงเพิ่มขึ้น อาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่า
- คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (U.S. Durable Goods Orders) (27 พฤศจิกายน) : หากคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นกว่าคาด จะบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งในภาคการผลิตของสหรัฐ และอาจหนุนค่าเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขต่ำกว่าคาด ดอลลาร์อาจอ่อนค่า
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board ของสหรัฐ (U.S. Conference Board Consumer Confidence Index) (27 พฤศจิกายน) : ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงกว่าคาด อาจส่งผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ แต่หากตัวเลขลดลง ดอลลาร์อาจอ่อนตัว
- ตลาดสหรัฐปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า (U.S. Market Closure for Thanksgiving Day) (28 พฤศจิกายน) : การปิดตลาดของสหรัฐอาจลดความผันผวนในคู่เงิน EUR/USD โดยตลาดอาจเคลื่อนไหวจากปัจจัยในยุโรปเป็นหลัก
- ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐ (U.S. Pending Home Sales) (29 พฤศจิกายน) : ตัวเลขยอดขายบ้านสะท้อนความเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หากยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น อาจสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์และสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินยูโร
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาได้ยืนยันการปิดตัวต่ำกว่าแนวรับที่สำคัญใน Timeframe Week ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะปรับตัวลงต่อในระยะถัดไป เนื่องจากการปิดต่ำกว่าระดับนี้มักจะสะท้อนถึงแรงขายที่มีความแข็งแกร่ง
แนะนำให้มองหาจังหวะในการเปิดคำสั่งขาย (Sell) ในช่วงที่ราคาฟื้นตัวขึ้นมา โดยเป้าหมายราคาถัดไปที่สามารถพิจารณาได้คือระดับ 1.03000 ซึ่งเป็นจุดที่อาจมีการย่อตัวลงไปต่อจากนั้น
GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร
- ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจ CBI ของสหราชอาณาจักร (U.K. CBI Business Optimism Index) (25 พฤศจิกายน) : ดัชนีนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในสหราชอาณาจักร หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินปอนด์ แต่หากต่ำกว่าคาด อาจกดดันค่าเงินปอนด์ให้อ่อนตัวลง
- ตัวเลขประมาณการ GDP ไตรมาส 3 ของสหราชอาณาจักร (Q3 GDP Estimates for the United Kingdom) (26 พฤศจิกายน) : ตัวเลข GDP จะบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมา หาก GDP เติบโตดีกว่าคาด อาจช่วยหนุนค่าเงินปอนด์ แต่หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ค่าเงินปอนด์อาจอ่อนค่าลง
- ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยของสหราชอาณาจักร (U.K. Nationwide House Price Index) (29 พฤศจิกายน) : หากราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น อาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ และช่วยหนุนค่าเงินปอนด์
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ตัวเลขดัชนีราคาบ้านในสหรัฐ (U.S. Case-Shiller Home Price Index) (26 พฤศจิกายน) : หากราคาบ้านในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้น จะสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ และอาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์
- คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (U.S. Durable Goods Orders) (27 พฤศจิกายน) : ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจะบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคการผลิตในสหรัฐ ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันค่าเงินปอนด์ หากตัวเลขต่ำกว่าคาด ดอลลาร์อาจอ่อนค่าลง
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board ของสหรัฐ (U.S. Conference Board Consumer Confidence Index) (27 พฤศจิกายน) : หากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงกว่าคาด อาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่า ในทางกลับกัน หากตัวเลขลดลง ค่าเงินปอนด์อาจได้รับแรงหนุน
- ตลาดสหรัฐปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า (U.S. Market Closure for Thanksgiving Day) (28 พฤศจิกายน) : การปิดทำการของตลาดในสหรัฐอาจลดความผันผวนในคู่เงิน GBP/USD โดยการเคลื่อนไหวของตลาดอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยจากสหราชอาณาจักรเป็นหลัก
- ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐ (U.S. Pending Home Sales) (29 พฤศจิกายน) : หากยอดขายบ้านเพิ่มขึ้น อาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ แต่หากยอดขายลดลง ค่าเงินปอนด์อาจได้รับแรงหนุน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคายังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และได้ทะลุผ่านทุกแนวรับที่สำคัญ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีโอกาสที่ราคาจะยังคงลดลงต่อไป
แนะนำให้หาจังหวะในการเปิดคำสั่งขาย (Sell) ตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายราคาถัดไปที่ควรจับตาคือบริเวณแนวรับที่ระดับ 1.24300 ซึ่งอาจเป็นจุดที่ราคาจะทดสอบและอาจมีการย่อตัวในระยะถัดไป
XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ
- ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจ Ifo ของเยอรมนี (German Ifo Business Climate Index) (25 พฤศจิกายน) : หากดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจในเยอรมนีลดลง จะสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซน ซึ่งอาจส่งผลให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
- ตัวเลขประมาณการ GDP ไตรมาส 3 ของยูโรโซน (Q3 GDP Estimates for the Eurozone) (26 พฤศจิกายน) : ตัวเลขนี้จะบ่งบอกถึงภาพรวมของเศรษฐกิจในยูโรโซน หากข้อมูลสะท้อนถึงการเติบโตที่ชะลอตัว อาจหนุนราคาทองคำ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
- ตัวเลขดัชนีราคาบ้านในสหรัฐ (U.S. Case-Shiller Home Price Index) (26 พฤศจิกายน) : หากราคาบ้านในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำ แต่หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ทองคำอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น
- คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (U.S. Durable Goods Orders) (27 พฤศจิกายน) : หากคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด จะสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำ แต่หากตัวเลขลดลง ทองคำอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board ของสหรัฐ (U.S. Conference Board Consumer Confidence Index) (27 พฤศจิกายน) : ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และกดดันราคาทองคำ แต่หากความเชื่อมั่นลดลง ทองคำอาจได้รับแรงหนุน
- ตลาดสหรัฐปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า (U.S. Market Closure for Thanksgiving Day) (28 พฤศจิกายน) : การปิดทำการของตลาดในวันดังกล่าวอาจทำให้ความผันผวนของราคาทองคำลดลง โดยราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวตามปัจจัยในตลาดอื่น ๆ
- ดัชนีราคาผู้บริโภคเบื้องต้นของเยอรมนี (Preliminary German CPI) (29 พฤศจิกายน) : หากตัวเลข CPI ของเยอรมนีออกมาสูงกว่าคาด อาจเพิ่มแรงหนุนต่อราคาทองคำ เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในภูมิภาค
- ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐ (U.S. Pending Home Sales) (29 พฤศจิกายน) : หากยอดขายบ้านในสหรัฐเพิ่มขึ้น อาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ แต่หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ทองคำอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคามีการปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ และกำลังเข้าใกล้การทดสอบแนวต้านที่บริเวณราคา 2725-2730 หากราคาทดสอบแนวต้านแล้วมีการย่อ สามารถพิจารณาหาจังหวะ Follow Buy เมื่อราคาทำการ Retest แนวรับต่าง ๆ ใน Timeframe เล็ก ๆ เพื่อคาดหวังให้ราคามีการเคลื่อนไหวขึ้นต่อไปได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้แนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 2700 หากราคาพักตัวและยืนอยู่เหนือระดับนี้ได้ ก็มีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นต่อได้เช่นกัน
Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน