วิเคราะห์กราฟแบบแม่นเป๊ะ กับโค้ชมาร์ค RoboAcademy วันที่ 23 - 27 กันยายน 2567

สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์ที่สี่ของเดือนกันยายน ในระหว่างวันที่ 23 - 27 กันยายน 2567

EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป

• นโยบายการเงินของ ECB : การแถลงหรือสุนทรพจน์จากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจบ่งบอกถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในอนาคต แนวโน้มเงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย
• PMI ของยูโรโซน : การเผยแพร่ข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตและบริการจะให้ภาพรวมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หากตัวเลขออกมาดี ยูโรอาจแข็งค่าขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าตัวเลขอ่อนแออาจทำให้ยูโรอ่อนค่าลง
• ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจ IFO : ดัชนี IFO ของเยอรมนี ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสภาวะธุรกิจในประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยูโรโซน ข้อมูลที่ดีอาจหนุนยูโร ในขณะที่ผลลัพธ์ที่ไม่ดีอาจบ่งบอกถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจ

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

• การแถลงจากธนาคารกลางสหรัฐฯ : การสื่อสารใดๆ จากเฟดเกี่ยวกับนโยบายการเงินจะมีผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หากแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ เฟดอาจยังคงมีท่าทีที่เข้มงวด ซึ่งจะสนับสนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
• GDP ของสหรัฐฯ : การเผยแพร่ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 (การประเมินขั้นสุดท้าย) จะเป็นปัจจัยสำคัญ ถ้าการปรับประมาณการดีกว่าที่คาดไว้ อาจทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น
• ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Core PCE) : ดัชนีนี้เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญเป็นพิเศษ หากตัวเลขเงินเฟ้อยังสูง อาจส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคา ณ ปัจจุบัน กำลังเข้าทดสอบแนวต้านบนที่โซนราคาประมาณ 1.12000 อาจจะใช้เทคนิคการเทรด Buy on dip คือหากกราฟย่อ ให้ Buy เพื่อลุ้นให้ราคาเคลื่อนที่ทะลุแนวต้านขึ้นไป แต่ก็ต้องระวังว่า ยังมีโซนแนวรับประมาณ 1.10000 ที่ราคาอาจจะย่อแรงลงไปทดสอบได้ลึก ต้องสังเกต Price action และปัจจัยอื่น ๆ ภายในสัปดาห์ที่กำลังจะเทรดด้วย หากมีข่าวมาหนุนทางฝั่ง USD ให้แข็ง ราคาอาจจะทุบลงแรงได้เช่นกัน

GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร

• นโยบายการเงินของ BoE : คำแถลงจากเจ้าหน้าที่ BoE อาจให้เบาะแสเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ย การปรับขึ้นหรือลดดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักร ซึ่งจะมีผลต่อค่าเงินปอนด์
• ดัชนี PMI ของสหราชอาณาจักร : การประกาศดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการจะบ่งบอกถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตัวเลขที่แข็งแกร่งอาจช่วยหนุนค่าเงินปอนด์ ในขณะที่ตัวเลขที่อ่อนแออาจส่งผลให้ปอนด์อ่อนค่าลง
• รายงานการเงินของรัฐบาลสหราชอาณาจักร : การเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของรัฐบาล รวมถึงการขาดดุลงบประมาณจะส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางของเงินปอนด์ หากมีการควบคุมงบประมาณอย่างเข้มงวดหรือมีการลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน อาจช่วยหนุนเงินปอนด์

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

• การแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ : ท่าทีของเฟดเกี่ยวกับการควบคุมเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์ หากเฟดมีท่าทีเข้มงวดขึ้น เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ GBP/USD อ่อนตัวลง
• GDP สหรัฐฯ : การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสำคัญ หากตัวเลขเติบโตมากกว่าที่คาดไว้ ดอลลาร์อาจได้รับแรงหนุนและทำให้ปอนด์อ่อนค่า
• ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Core PCE) : ดัชนีนี้เป็นตัววัดเงินเฟ้อหลักของเฟด หากยังคงสูงอยู่ อาจทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาในสัปดาห์ที่ผ่านมาล่าสุด ได้มีการคอนเฟิร์ม Break of Structure ปิดแท่ง Day ทะลุแนวต้านใน TF Week เก่าได้ (ตามภาพ) อาจจะส่งผลให้ราคาอาจจะขึ้นไปได้อีก แนะนำไปทางฝั่ง Buy แต่ลักษณะจะคล้าย ๆ EURUSD กล่าวคือ อาจจะเกิดการทุบลงไปทดสอบแนวรับเล็ก ๆ ที่โซนราคาประมาณ 1.32300 ได้ แนะนำให้รอราคาย่อลงอีกสักหน่อย ถึงค่อยเข้า Buy

XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ

• นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ : หากเฟดส่งสัญญาณว่าจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อ ก็อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ซึ่งจะทำให้ทองคำ (XAU) อ่อนค่าลง เนื่องจากทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะลดความน่าสนใจของทองคำ
• ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Core PCE) : หากตัวเลขเงินเฟ้อยังสูง เฟดอาจยังคงมีท่าทีเข้มงวด ซึ่งจะหนุนให้ดอลลาร์แข็งแกร่งและกดดันราคาทองคำ
• GDP สหรัฐฯ : หากตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาด อาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และทำให้ราคาทองคำลดลง เนื่องจากนักลงทุนจะหันไปหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากขึ้น
• ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ : หากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงส่งผลให้เกิดความคาดหวังว่าธนาคารกลางจะต้องเข้มงวดกับนโยบายการเงินต่อไป ทองคำอาจเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากทองคำมักเคลื่อนไหวสวนทางกับดอลลาร์

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาปัจจุบันอยู่ในโซน ATH จากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และปัจจัยทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็ยังหนุนให้ราคาทองพุ่งขึ้นได้เรื่อย ๆ แนะนำ Buy on dip เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาที่ขึ้นไปแรง ๆ ก็สามารถโดนทุบกลับลงมาแรงได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นต้องระวังและตรวจสอบข่าวที่อาจจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ให้ดี ที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงกับความผันผวนของราคา โดยอาจจะลุ้นให้ราคาย่อลงมา 2600 ก็เป็น Buy zone ที่ดีได้เช่นกัน

Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน