วิเคราะห์กราฟแบบแม่นเป๊ะ กับโค้ชมาร์ค RoboAcademy วันที่ 16 - 20 ธันวาคม 2567

สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์ที่สามของเดือนธันวาคม ในระหว่างวันที่ 16 - 20 ธันวาคม 2567

EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป

  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนี (German Business Sentiment) (16 ธันวาคม) : ตัวเลขนี้สะท้อนมุมมองของภาคธุรกิจในเยอรมนี หากผลออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจเป็นปัจจัยหนุนค่าเงินยูโร แต่หากต่ำกว่าคาด อาจส่งผลลบต่อยูโร
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน (Eurozone Manufacturing & Services PMI) (17 ธันวาคม) : ตัวเลข PMI ที่สูงกว่าคาดการณ์บ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซน ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนค่าเงินยูโร ในทางกลับกัน หากผลออกมาต่ำกว่าคาด อาจสร้างแรงกดดันต่อยูโร
  • ดัชนีราคาผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone CPI) (18 ธันวาคม) : ตัวเลข CPI สะท้อนภาวะเงินเฟ้อในยูโรโซน หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์ อาจเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อค่าเงินยูโร
  • การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB Meeting) (19 ธันวาคม) : หาก ECB แสดงท่าที "Hawkish" เกี่ยวกับนโยบายการเงิน อาจช่วยหนุนค่าเงินยูโร แต่หากแสดงมุมมอง "Dovish" อาจส่งผลลบต่อยูโร
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone CCI) (20 ธันวาคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาดการณ์ อาจช่วยเพิ่มแรงสนับสนุนต่อค่าเงินยูโร

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

  • ตัวเลขใบอนุญาตก่อสร้างของสหรัฐ (U.S. Building Permits) (17 ธันวาคม): ตัวเลขนี้สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ หากผลออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ดอลลาร์อาจได้รับแรงหนุนและแข็งค่าขึ้น
  • ตัวเลขยอดขายปลีกของสหรัฐ (U.S. Retail Sales) (18 ธันวาคม): หากตัวเลขยอดขายปลีกออกมาสูงกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันค่าเงินยูโร แต่หากต่ำกว่าคาด ยูโรอาจได้รับแรงหนุนแทน
  • คำขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (19 ธันวาคม): ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานในสหรัฐ หากจำนวนคำขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงหรืออยู่ในเกณฑ์ดี อาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งของดอลลาร์
  • รายงาน GDP ของสหรัฐ (U.S. GDP) (20 ธันวาคม): ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในสหรัฐ อาจสนับสนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นและกดดันค่าเงินยูโร

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาปัจจุบันมีการทรงตัวอยู่บริเวณแนวรับที่ประมาณ 1.04600 ซึ่งอาจรอดูท่าทีว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ หรือจะมีการปรับตัวลงต่อไป

แนะนำหากราคามีการ Breakout ลงผ่านแนวรับ ให้รอจังหวะที่ราคาย้อนกลับมาทดสอบแนวรับเดิม (Retest) แล้วค่อย Follow Sell ตามแนวโน้ม อีกทางเลือกหนึ่ง คือรอ Sell ที่โซนแนวต้านด้านบน บริเวณประมาณ 1.06200 หากราคาปรับตัวขึ้นไปถึงจุดดังกล่าว

GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร

  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของสหราชอาณาจักร (U.K. CBI Industrial Trends Orders) (16 ธันวาคม) : ตัวเลขนี้สะท้อนกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักร หากผลออกมาดีกว่าคาด อาจสนับสนุนค่าเงินปอนด์ แต่หากต่ำกว่าคาด อาจส่งผลลบต่อค่าเงินปอนด์
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและบริการของสหราชอาณาจักร (U.K. Manufacturing & Services PMI) (17 ธันวาคม) : ตัวเลข PMI บ่งบอกถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตและบริการ หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจช่วยหนุนค่าเงินปอนด์ แต่หากต่ำกว่าคาด อาจกดดันค่าเงินปอนด์
  • ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร (U.K. CPI) (18 ธันวาคม) : ตัวเลข CPI เป็นตัวชี้วัดภาวะเงินเฟ้อ หากอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าคาด อาจเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด ซึ่งจะส่งผลบวกต่อค่าเงินปอนด์
  • ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหราชอาณาจักร (U.K. PPI) (19 ธันวาคม) : ตัวเลข PPI สะท้อนต้นทุนการผลิต หากผลออกมาสูงกว่าคาด อาจช่วยหนุนค่าเงินปอนด์
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร (U.K. GfK Consumer Confidence) (20 ธันวาคม) : หากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาสูงกว่าคาด อาจส่งผลบวกต่อค่าเงินปอนด์

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

  • ตัวเลขใบอนุญาตก่อสร้างของสหรัฐ (U.S. Building Permits) (17 ธันวาคม) : ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ หากผลออกมาดีกว่าคาดการณ์ อาจสนับสนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
  • ตัวเลขยอดขายปลีกของสหรัฐ (U.S. Retail Sales) (18 ธันวาคม) : หากยอดขายปลีกออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ ดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นและสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินปอนด์ แต่หากต่ำกว่าคาด ค่าเงินปอนด์อาจได้รับแรงหนุนแทน
  • คำขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (19 ธันวาคม) : ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ หากตัวเลขออกมาดี ดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้น และกดดันค่าเงินปอนด์
  • รายงาน GDP ของสหรัฐ (U.S. GDP) (20 ธันวาคม) : การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในสหรัฐ อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันคู่เงิน GBP/USD

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคามีการเคลื่อนที่ตามแผนที่วิเคราะห์ไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการปรับตัวลงต่อเนื่องตามคาดการณ์ แนะนำให้หาจังหวะ Sell เพื่อเก็งกำไรจากการปรับตัวลงของราคา โดยตั้งเป้าหมายให้ราคาลงไปทดสอบแนวรับบริเวณ 1.25000

XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ

  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนี (German Business Sentiment) (16 ธันวาคม) : หากตัวเลขสะท้อนการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในเยอรมนี อาจกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน (Eurozone Manufacturing & Services PMI) (17 ธันวาคม) : ตัวเลข PMI ที่ต่ำกว่าคาดอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจยูโรโซน ทำให้นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ
  • ตัวเลขใบอนุญาตก่อสร้างของสหรัฐ (U.S. Building Permits) (17 ธันวาคม) : หากตัวเลขออกมาดี สะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง อาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
  • ดัชนีราคาผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone CPI) (18 ธันวาคม) : ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงอาจสร้างความกังวลเรื่องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และเพิ่มความต้องการถือครองทองคำ
  • ตัวเลขยอดขายปลีกของสหรัฐ (U.S. Retail Sales) (18 ธันวาคม) : ตัวเลขที่แข็งแกร่งอาจหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ แต่หากต่ำกว่าคาด ราคาทองคำอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น
  • การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB Meeting) (19 ธันวาคม) : หาก ECB แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ อาจกระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  • คำขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (19 ธันวาคม) : ตัวเลขที่ดีกว่าคาดอาจบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ และกดดันราคาทองคำ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone CCI) (20 ธันวาคม) : ตัวเลขที่ต่ำกว่าคาดอาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย และหนุนราคาทองคำ
  • รายงาน GDP ของสหรัฐ (U.S. GDP) (20 ธันวาคม) : หากตัวเลข GDP สหรัฐออกมาแข็งแกร่ง อาจหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ปัจจุบันราคาได้มีการ Breakout เทรนด์ไลน์เดิม และกำลังลงมาทดสอบแนวรับที่สำคัญ หากราคาสามารถยืนบริเวณแนวรับได้ มีโอกาสสูงที่ราคาจะปรับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง

แนะนำให้รอดูแท่งเทียนยืนยัน หากมีแท่งเขียวแสดงแรงซื้อที่ชัดเจน (Bullish Candle) บริเวณแนวรับ จะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเปิดคำสั่ง Buy ซึ่งโซนที่แนะนำสำหรับการเข้าซื้อ คือ บริเวณ 2630 ซึ่งเป็นฐานแนวรับสำคัญ

Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

ข่าวอื่นๆ

แสดงความคิดเห็น