สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ในระหว่างวันที่ 3 - 7 มีนาคม 2568
EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน (Eurozone Manufacturing PMI) (3 มีนาคม) : หากดัชนีออกมาต่ำกว่าคาด อาจส่งผลลบต่อค่าเงินยูโร เนื่องจากสะท้อนถึงการหดตัวของภาคการผลิต
- ดัชนีราคาผู้บริโภคของยูโรโซน (Eurozone CPI) (3 มีนาคม) : หาก CPI สูงกว่าคาด อาจเป็นสัญญาณของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ ECB พิจารณานโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น
- ดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซน (Eurozone Services PMI) (5 มีนาคม) : ค่า PMI ที่สูงกว่าคาด อาจส่งผลเชิงบวกต่อค่าเงินยูโร
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ (U.S. ISM Manufacturing PMI) (3 มีนาคม) : หากดัชนีสูงกว่าคาด อาจส่งผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสะท้อนถึงการขยายตัวของภาคการผลิต
- ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ (U.S. ADP) (5 มีนาคม) : ตัวเลขที่สูงกว่าคาดจะช่วยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากสะท้อนถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (6 มีนาคม) : หากตัวเลขต่ำกว่าคาด อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
- รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (U.S. Non-Farm Payrolls) (7 มีนาคม) : หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด อาจกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
- อัตราการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Unemployment Rate) (7 มีนาคม) : หากอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น อาจส่งผลลบต่อค่าเงินดอลลาร์
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคากำลังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway และล่าสุดได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1.05300 ก่อนถูกปฏิเสธลงมาอย่างชัดเจน แนะนำรอจังหวะ Buy หากมี Price Action ที่ชัดเจนบริเวณแนวรับ 1.03300 - 1.02800 แต่หากราคาหลุดต่ำกว่า 1.02600 ควรพักรอดูสถานการณ์ โดยมีแนวรับสำคัญถัดไปที่ 1.02300 ซึ่งอาจเป็นโซนที่เหมาะสำหรับการเข้า Buy อีกครั้ง
GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร (U.K. Manufacturing PMI) (3 กุมภาพันธ์) : หากดัชนีออกมาต่ำกว่าคาด อาจส่งผลลบต่อค่าเงินปอนด์ เนื่องจากสะท้อนถึงภาคการผลิตที่ยังคงหดตัว
- ดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักร (U.K. Services PMI) (5 มีนาคม) : หากดัชนีสูงกว่าคาด อาจเป็นปัจจัยหนุนค่าเงินปอนด์ เนื่องจากภาคบริการมีสัดส่วนสูงในเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร
- ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร (U.K. CPI) (7 มีนาคม) : หาก CPI สูงกว่าคาด อาจหนุนให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) พิจารณานโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อ GBP
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ (U.S. ISM Manufacturing PMI) (3 มีนาคม) : หากดัชนีสูงกว่าคาด อาจส่งผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
- ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ (U.S. ADP) (5 มีนาคม) : หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (6 มีนาคม) : หากตัวเลขต่ำกว่าคาด อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
- รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (U.S. Non-Farm Payrolls) (7 มีนาคม) : หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด อาจกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
- อัตราการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Unemployment Rate) (7 มีนาคม) : หากอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น อาจส่งผลลบต่อค่าเงินดอลลาร์
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคากำลังเคลื่อนที่ในแนวโน้มขาขึ้นเล็ก ๆ (Minor Uptrend) โดยมีเส้น Trend Line คอยสนับสนุน แต่ล่าสุดได้ชนแนวต้านที่ 1.27100 และถูกปฏิเสธลงมา ปัจจุบันราคายังทรงตัวอยู่บริเวณแนวรับเล็กที่ 1.25600 และยังไม่ทะลุลงไป หากในสัปดาห์นี้มี Price Action ฝั่ง Buy ที่ชัดเจนบริเวณแนวรับนี้ อาจพิจารณาเข้า Buy เพื่อลุ้นให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อ
XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน (Eurozone Manufacturing PMI) (3 มีนาคม) : หากดัชนีออกมาสูงกว่าคาด อาจส่งผลลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากแสดงถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)
- ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ (U.S. ADP) (5 มีนาคม) : หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากอาจทำให้ Fed ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ (U.S. ISM Manufacturing PMI) (3 มีนาคม) : หากดัชนีออกมาต่ำกว่าคาด อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Initial Jobless Claims) (6 มีนาคม) : หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจส่งผลบวกต่อทองคำ เนื่องจากบ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง
- อัตราการว่างงานของสหรัฐ (U.S. Unemployment Rate) (7 มีนาคม) : หากอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น อาจทำให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้น
- ดัชนีค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงของสหรัฐฯ (U.S. Average Hourly Earnings) (7 มีนาคม) : หากค่าจ้างเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด อาจเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาปรับตัวลงอย่างรุนแรงตามสไตล์ "น้องทองตัวแสบ" กวาดออเดอร์ฝั่ง Buy ไปอย่างหนัก ก่อนลงไปสร้างฐานแนวรับที่ 2830 และดีดตัวกลับขึ้นมาทิ้งไส้ไว้ แนะนำให้เฝ้ารอดูทิศทางของราคาก่อน โดยคาดว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และยูเครน ที่ยังคงไม่ลงรอยกัน รวมถึงถ้อยแถลงของ Donald Trump เกี่ยวกับความเสี่ยงของสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำ แนะนำให้ดัก Buy ใน Time Frame เล็ก ๆ และหากราคาหลุดต่ำกว่า 2830 ให้ยอมตัดขาดทุนและหยุดรอดูจังหวะใหม่ก่อนเข้าเทรดอีกครั้ง
Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน