วิเคราะห์กราฟแบบแม่นเป๊ะ กับโค้ชมาร์ค RoboAcademy วันที่ 14 - 18 ตุลาคม 2567

สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกับบทวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD GBP/USD และ XAU/USD ประจำสัปดาห์ที่สามของเดือนตุลาคม ในระหว่างวันที่ 14 - 18 ตุลาคม 2567

EUR/USD “ยูโร เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป

  • ข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซน (Final CPI) (14 ตุลาคม) : การประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สุดท้ายของยูโรโซนสำหรับเดือนกันยายนเป็นข้อมูลสำคัญที่จะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อในยูโรโซน ซึ่งจะส่งผลต่อจุดยืนของ ECB เกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หาก CPI สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินยูโร
  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมัน (ZEW Index) (15 ตุลาคม) : ตัวบ่งชี้นี้สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในเยอรมนี หากดัชนีความเชื่อมั่นต่ำกว่าที่คาดการณ์ อาจเป็นสัญญาณของความกังวลทางเศรษฐกิจในประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดของยูโรโซน ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนลง
  • ดุลการค้าของยูโรโซน (17 ตุลาคม) : ข้อมูลนี้จะสะท้อนถึงผลการค้าของยูโรโซน ดุลการค้าที่แข็งแกร่งจะเป็นผลดีต่อค่าเงินยูโร ในขณะที่ผลการค้าที่อ่อนแออาจสร้างแรงกดดันต่อค่าเงิน
  • บัญชีเดินสะพัดของยูโรโซน (18 ตุลาคม) : ข้อมูลนี้จะบ่งบอกถึงสุขภาพทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในด้านการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ บัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลจะแข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนค่าเงินยูโร

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

  • ข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐ (16 ตุลาคม) : ข้อมูลนี้เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ รายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเสริมความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะยังคงมีนโยบายการเงินที่เข้มงวด ซึ่งจะช่วยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
  • บันทึกการประชุม FOMC ของสหรัฐ (16 ตุลาคม) : บันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแผนการอัตราดอกเบี้ยในอนาคตของ Fed หากน้ำเสียงจากบันทึกชี้ไปทางเข้มงวดต่อ อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าการปรับนโยบายที่เข้มงวดอาจเกิดขึ้นอีก
  • การเรียกร้องสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (18 ตุลาคม) : รายงานรายสัปดาห์เกี่ยวกับการเรียกร้องสวัสดิการว่างงานอาจส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หากจำนวนการเรียกร้องน้อยกว่าที่คาดการณ์ อาจสร้างความมั่นใจในเศรษฐกิจสหรัฐ และส่งผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาได้ถูกกดลงมาปิดทดสอบอยู่เหนือแนวรับที่ 1.09000 ซึ่งเป็นระดับสำคัญ ขณะนี้ควรรอดูว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดต่อ โดยแนะนำให้รอการยืนยันจาก Price Action ก่อนตัดสินใจ หากมีสัญญาณ Buy ชัดเจน อาจถือออเดอร์เพื่อทำกำไรในทิศทางขาขึ้นได้ อย่างไรก็ตามหากต้องการ Sell ควรรอให้ราคายืนยันการ Break แนวรับนี้ลงไปก่อน เพื่อความปลอดภัย

GBP/USD “ปอนด์อังกฤษ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ GBP/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร

  • อัตราการว่างงานในสหราชอาณาจักร (15 ตุลาคม) : การประกาศข้อมูลอัตราการว่างงานและรายได้เฉลี่ยมีความสำคัญต่อการประเมินสุขภาพของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร หากข้อมูลการว่างงานออกมาแข็งแกร่ง อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินปอนด์ แต่หากอัตราการว่างงานสูงกว่าที่คาดไว้ อาจทำให้ค่าเงินปอนด์อ่อนลง
  • ดัชนียอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักร (17 ตุลาคม) : ข้อมูลนี้สะท้อนถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ หากยอดค้าปลีกสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินปอนด์ แต่หากยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาดการณ์ อาจทำให้ค่าเงินปอนด์อ่อนลง

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

  • ข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐ (16 ตุลาคม) : ข้อมูลยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการของผู้บริโภคในสหรัฐ ซึ่งจะช่วยเสริมความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะยังคงมีนโยบายการเงินที่เข้มงวด ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้นและสร้างแรงกดดันต่อ GBP/USD
  • บันทึกการประชุม FOMC ของสหรัฐ (16 ตุลาคม) : บันทึกการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแผนการอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หาก Fed ยังคงมีน้ำเสียงที่เข้มงวด ค่าเงินดอลลาร์อาจแข็งขึ้น และกดดันให้คู่เงิน GBP/USD ลดลง
  • การเรียกร้องสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (18 ตุลาคม) : รายงานการเรียกร้องสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของค่าเงินดอลลาร์ หากจำนวนการเรียกร้องน้อยกว่าที่คาดการณ์ อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น

ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป ที่ส่งผลต่อ GBP/USD

  • ข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซน (Final CPI) (14 ตุลาคม) : แม้ว่าข้อมูลนี้จะเป็นของยูโรโซน แต่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดยุโรปโดยรวม การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในยูโรโซนอาจเพิ่มความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินปอนด์และตลาดยุโรป
  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมัน (ZEW Index) (15 ตุลาคม) : ข้อมูลนี้อาจส่งผลทางอ้อมต่อคู่ GBP/USD เนื่องจากจะส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจของยุโรปโดยรวม การลดลงของดัชนีอาจทำให้ค่าเงินปอนด์ได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม
  • ดุลการค้าของยูโรโซน (17 ตุลาคม) : แม้ข้อมูลนี้จะเป็นของยูโรโซน แต่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินปอนด์ในฐานะส่วนหนึ่งของตลาดยุโรป หากดุลการค้ายูโรโซนอ่อนแอ อาจทำให้ GBP/USD ลดลง
  • บัญชีเดินสะพัดของยูโรโซน (18 ตุลาคม) : ข้อมูลนี้จะบ่งบอกถึงสุขภาพทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในด้านการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ การเกินดุลที่แข็งแกร่งจะช่วยเสริมค่าเงินยูโร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเงินปอนด์ทางอ้อม

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคามีการเคลื่อนไหวคล้ายกับคู่ EUR/USD โดยราคาลงมาทดสอบแนวรับและปิดที่บริเวณนี้ ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับการ Buy สั้น ๆ เพื่อหวังการดีดตัวกลับขึ้นไป หากคุณต้องการเปิด ฝั่ง Sell ควรรอให้ราคายืนยันการทะลุแนวรับลงไปก่อน เพื่อให้สามารถ Follow Sell ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจในทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา

XAU/USD “ทองคำ เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ”

การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อ XAU/USD ในสัปดาห์นี้

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อทองคำ

  • ข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซน (Final CPI) (14 ตุลาคม) : การประกาศข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนจะมีผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน หากเงินเฟ้อในยูโรโซนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจส่งผลให้ความต้องการถือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเช่นทองคำเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนจะมองหาสินทรัพย์ที่คุ้มครองความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมัน (ZEW Index) (15 ตุลาคม) : ดัชนีนี้จะสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมัน หากผลลัพธ์ออกมาไม่ดีและความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจลดลง อาจทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำแข็งค่าขึ้น
  • ข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐ (16 ตุลาคม) : ข้อมูลยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ความต้องการทองคำลดลง เนื่องจากนักลงทุนอาจเปลี่ยนความสนใจไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น แทนที่จะลงทุนในทองคำที่ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
  • บันทึกการประชุม FOMC ของสหรัฐ (16 ตุลาคม) : บันทึกการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแผนการปรับอัตราดอกเบี้ย หาก Fed ส่งสัญญาณถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม อาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่า และกดดันราคาทองคำให้ลดลง
  • ดุลการค้าของยูโรโซน (17 ตุลาคม) : การเกินดุลการค้าที่แข็งแกร่งในยูโรโซนจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเงินยูโร และอาจสร้างแรงกดดันให้กับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำแข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนจะหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้นหากเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน
  • บัญชีเดินสะพัดของยูโรโซน (18 ตุลาคม) : บัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจยูโรโซน อาจทำให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นและส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนลง ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองคำให้สูงขึ้น
  • การเรียกร้องสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ (18 ตุลาคม) : ข้อมูลการเรียกร้องสวัสดิการว่างงานของสหรัฐอาจส่งผลต่อราคาทองคำ หากข้อมูลการว่างงานดีกว่าที่คาดการณ์ ดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นและทำให้ทองคำลดลง แต่หากข้อมูลแย่ลง อาจทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเนื่องจากนักลงทุนจะหันมาหาสินทรัพย์ปลอดภัย

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาได้มีการลงมาทดสอบโซนแนวรับที่ 2600 และได้ดีดกลับขึ้นอย่างรุนแรง คาดว่าราคาจะมุ่งหน้าไปทดสอบแนวต้านที่โซน 2670-2680 อีกครั้ง อย่างไรก็ตามควรติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่จะออกมาในสัปดาห์นี้ เนื่องจากอาจส่งผลให้ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรงทั้งในทิศทางขึ้นหรือลง ในขณะนี้แนะนำให้มีแนวโน้ม Bias Buy เพื่อหวังให้ราคาขึ้นไปทดสอบ ATH อีกครั้ง เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน ยังไม่มีสัญญาณว่าราคาจะปรับตัวลงแต่อย่างใด

Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากโค้ชของสถาบัน RoboAcademy ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด และการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

ข่าวอื่นๆ

แสดงความคิดเห็น